"แกะ" สัตว์ที่มีขนปุกปุยน่ารักแถมหน้าตา ของมันก็ดูซื่อๆ สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศนิวซีแลนด์ได้ไม่น้อยทีเดียว ด้วยจำนวนที่มีมากกว่าคนถึง 10 เท่า (จำนวนประชากร 4.3 ล้านคน) แกะนิวซีแลนด์จึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับประเทศอย่างมาก แม้แต่ฟาร์มเลี้ยงแกะก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เลื่องชื่อ จากการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม พร้อมมีการแสดงของแกะเป็นตัวชูโรง ใครที่ไปถึงเมืองโรโตรัวต้องรู้จักฟาร์มโชว์ "อะ โกรโดม" เป็นอย่างดี เพราะถูกบรรจุเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของ นิวซีแลนด์
ความโดดเด่นของ "อะโกรโดม" ทำให้ฟาร์ม โชว์แห่งนี้ ได้รับรางวัลสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของนิวซีแลนด์ จากการจัดอันดับของการท่องเที่ยวแดนกีวี เมื่อปี 1994 หลังจากนั้น 2 ปี ธุรกิจฟาร์ม โชว์ของนิวซีแลนด์ ก็ได้สยายปีกไปเปิดสาขาในต่างแดนเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ "โตเกียว อะโกรโดม" ตั้งอยู่ในเขตชิบะเคน ประเทศญี่ปุ่น "อะ โกรโดม" มีที่มาจาก"ก็อดฟรีย์ โบเวน" นักตัดขนแกะที่โด่งดัง ซึ่งไป
ความโดดเด่นของ "อะโกรโดม" ทำให้ฟาร์ม โชว์แห่งนี้ ได้รับรางวัลสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของนิวซีแลนด์ จากการจัดอันดับของการท่องเที่ยวแดนกีวี เมื่อปี 1994 หลังจากนั้น 2 ปี ธุรกิจฟาร์ม โชว์ของนิวซีแลนด์ ก็ได้สยายปีกไปเปิดสาขาในต่างแดนเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ "โตเกียว อะโกรโดม" ตั้งอยู่ในเขตชิบะเคน ประเทศญี่ปุ่น "อะ โกรโดม" มีที่มาจาก"ก็อดฟรีย์ โบเวน" นักตัดขนแกะที่โด่งดัง ซึ่งไป
สร้างชื่อเสียงให้ประเทศนิวซีแลนด์ ในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ปี 1970 ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยการโชว์ตัดขนแกะได้อย่างน่าทึ่ง และเขาได้นำความฝันที่อยากสร้างฟาร์ม โชว์ มาหารือกับเพื่อนซี้ "จอร์จ ฮาร์ฟอร์ด" นักปศุสัตว์แห่งโรโตรัว จนในที่สุดทั้งคู่ก็สามารถสร้างฟาร์มโชว์ในฝันขึ้นสำเร็จเมื่อปี 1971 โดยตั้งชื่อว่า "อะโกรโดม" ซึ่ง ตั้งอยู่ในฟาร์มเลี้ยงแกะ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 160 เฮกเตอร์
ในยุคนั้นถือเป็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่อะเมซซิ่ง เพราะไม่มีใครทำมาก่อน จึงทำให้ชื่อเสียงของ "อะโกรโดม" ขจรขจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี 1986 ถึง 1991 ได้มีการทำสัญญากับการท่องเที่ยวแห่งนิวซีแลนด์ และหน่วยงานรัฐอีกหลายแห่ง จัดโรดโชว์นำการแสดงอันเลื่องชื่อของ "อะโกรโดม" ตระเวน เปิดโชว์ไปทั่วโลกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
ในยุคนั้นถือเป็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่อะเมซซิ่ง เพราะไม่มีใครทำมาก่อน จึงทำให้ชื่อเสียงของ "อะโกรโดม" ขจรขจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี 1986 ถึง 1991 ได้มีการทำสัญญากับการท่องเที่ยวแห่งนิวซีแลนด์ และหน่วยงานรัฐอีกหลายแห่ง จัดโรดโชว์นำการแสดงอันเลื่องชื่อของ "อะโกรโดม" ตระเวน เปิดโชว์ไปทั่วโลกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
"นิวซีแลนด์ อะโกรโดม" เป็นทั้งฟาร์มแกะและ ปศุสัตว์ โชว์ โดยมีแกะอยู่ 1,200 ตัว และวัวอีก 120 ตัว นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เข้ามาเที่ยวชมภายในฟาร์มโชว์แห่งนี้จะได้เพลิด เพลินกับการแสดงของสุนัขต้อนแกะ ที่โชว์ลีลาวิ่งต้อนแกะอย่างแสนรู้ และได้สนุกกับการป้อนอาหารแกะ ป้อนนมลูกแกะตัวน้อย พร้อมฝึกรีดนมวัวด้วย รวมถึงชมการ โชว์แกะสายพันธุ์ต่างๆ การสาธิต ตัดขนแกะ และกระบวนการทอขนแกะเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม สิ่งของเครื่องใช้ และผลิตภัณฑ์ต่างๆจากแกะ นอกจากนี้ มีเครื่องเล่นผจญภัย (AgroVenture) ให้ได้พิสูจน์ความกล้าอีกด้วย
ภายใน "อะโกรโดม" มีพนักงานคนไทยทำงานอยู่ด้วยถึง 4 คน อยู่ในระดับบริหาร 1 คน เป็นพนักงานขาย ของที่ระลึก 1 คน และอีก 2 คนเป็นพนักงานชั่วคราว คุณ แอนนี่ หรือ อัจฉรา แคลร์ สตรีไทยที่ร่วมงานกับอะโกรโดมมานานถึง 15 ปีแล้ว ในตำแหน่งผู้อำนวยการการตลาด ทางด้านเซาธ์อีสต์เอเชียและอินเดีย เธอมักจะมาให้การต้อนรับคณะวี ไอพีชาวไทยและนำชมด้วยตนเอง
โดยเล่าว่า เธอเป็นคนไทยคนแรกที่เข้ามาทำงานใน "อะโกรโดม" จากการได้ร่วมงานกับคนนิวซีแลนด์มา เขาจะให้เกียรติคนทุกชาติเท่า เทียมกันหมด คุณค่าของคนวัดกันที่ความสามารถ และสิ่งหนึ่งที่เธอรู้สึกประทับใจคนที่นี่ คือ ทุกคนจะมีใจรักและหวงแหนธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ซึ่งถูกปลูกฝังกันมาแต่เด็ก ทั้งในครอบครัวและที่โรงเรียน
โดยเล่าว่า เธอเป็นคนไทยคนแรกที่เข้ามาทำงานใน "อะโกรโดม" จากการได้ร่วมงานกับคนนิวซีแลนด์มา เขาจะให้เกียรติคนทุกชาติเท่า เทียมกันหมด คุณค่าของคนวัดกันที่ความสามารถ และสิ่งหนึ่งที่เธอรู้สึกประทับใจคนที่นี่ คือ ทุกคนจะมีใจรักและหวงแหนธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ซึ่งถูกปลูกฝังกันมาแต่เด็ก ทั้งในครอบครัวและที่โรงเรียน
เห็นได้จากวันหยุด พ่อแม่ก็จะพาลูกไปหาความสุขกับธรรมชาติ ทั้งไปเล่นกีฬา ขี่จักรยาน เดินป่า ตกปลา เป็นการได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็จะปลูกฝังให้ทุกคนเห็นคุณค่าของต้นไม้ใบไม้ จะไม่เด็ดหรือตัดต้นไม้ตามใจฉัน แม้แต่ต้นไม้ใหญ่ที่เราปลูกในบ้าน ถ้าอยากจะตัดต้องขออนุญาตจากเทศบาลก่อน แล้วจึงจะส่งเจ้าหน้าที่มาตัดให้ ถ้าเห็นว่าสมควร นอกจากนี้ รัฐยังพยายามดูแลรักษาระบบนิเวศน์ให้สมดุลอยู่เสมอ เช่นในฤดูกาลที่จำนวนนกเป็ดน้ำเพิ่มขึ้นก็ต้อง กำจัดจำนวนลง ด้วยการยิงทิ้งบ้าง
ทุกวันนี้แม้จำนวนคนนิวซีแลนด์จะเพิ่มมากขึ้น รถรามากขึ้น และบ้านอยู่อาศัยก็มากขึ้น แต่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกลับไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ก็เพราะทุกคนล้วนมีจิตสำนึกที่ ดีและตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม....
ทุกวันนี้แม้จำนวนคนนิวซีแลนด์จะเพิ่มมากขึ้น รถรามากขึ้น และบ้านอยู่อาศัยก็มากขึ้น แต่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกลับไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ก็เพราะทุกคนล้วนมีจิตสำนึกที่ ดีและตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม....
กระบวนการครีเอทผลิตภัณฑ์ จากขนแกะ
เมื่อเนื้อแกะจำนวนมาก ถูกนำมาเป็นอาหารอันโอชะของมนุษย์ ขนและหนังของมันก็ไม่ได้ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของเครื่องใช้นานาชนิด ซึ่งมีตั้งแต่รองเท้าแตะ รองเท้าบูต ผ้าห่ม แผ่นรองนั่ง ที่หุ้มเบาะนั่งรถยนต์ แผ่นปูนอนสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่ใช้หุ้มอานม้าเป็นต้น ผลผลิตเหล่านี้ยัง เป็นสินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของประเทศอีกด้วย "แกะ" จึงถือเป็นสัตว์ที่มีคุณประโยชน์ต่อมนุษย์มหาศาล
แต่ก่อนที่ขนแกะและหนังแกะจะกลายมาเป็นเครื่องใช้ที่ให้ความอบอุ่นแก่มนุษย์ และสัตว์ด้วยกัน ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ทั้งหมัก ฟอก ตาก ขัด รีด ฯลฯ ซึ่งใช้ เวลาร่วมปีทีเดียว และเพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าใจและสัมผัสกระบวนการผลิตอย่างลึกซึ้ง ทางโรงงานผลิตก็เกิดไอเดีย จัดทัวร์นำชมอย่างใกล้ชิดทุกวันวันละ 2 รอบด้วยกัน คือ รอบเช้ากับรอบบ่าย เรียกว่าก่อนใช้ก็ควรได้ทราบถึงที่มาเพื่อให้รู้คุณค่า
เมื่อเนื้อแกะจำนวนมาก ถูกนำมาเป็นอาหารอันโอชะของมนุษย์ ขนและหนังของมันก็ไม่ได้ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของเครื่องใช้นานาชนิด ซึ่งมีตั้งแต่รองเท้าแตะ รองเท้าบูต ผ้าห่ม แผ่นรองนั่ง ที่หุ้มเบาะนั่งรถยนต์ แผ่นปูนอนสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่ใช้หุ้มอานม้าเป็นต้น ผลผลิตเหล่านี้ยัง เป็นสินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของประเทศอีกด้วย "แกะ" จึงถือเป็นสัตว์ที่มีคุณประโยชน์ต่อมนุษย์มหาศาล
แต่ก่อนที่ขนแกะและหนังแกะจะกลายมาเป็นเครื่องใช้ที่ให้ความอบอุ่นแก่มนุษย์ และสัตว์ด้วยกัน ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ทั้งหมัก ฟอก ตาก ขัด รีด ฯลฯ ซึ่งใช้ เวลาร่วมปีทีเดียว และเพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าใจและสัมผัสกระบวนการผลิตอย่างลึกซึ้ง ทางโรงงานผลิตก็เกิดไอเดีย จัดทัวร์นำชมอย่างใกล้ชิดทุกวันวันละ 2 รอบด้วยกัน คือ รอบเช้ากับรอบบ่าย เรียกว่าก่อนใช้ก็ควรได้ทราบถึงที่มาเพื่อให้รู้คุณค่า
เครดิต: http://travel.thaiza.com
