เราสามารถรู้ล่วงหน้าได้กี่ชั่วโมง...ก่อนพายุจะมา


           ชื่อเรื่องนี้ นำมาจาชื่อเรื่องสารคดีพิเศษที่ สารคดี เคยเสนอไว้เมื่อปี ๒๕๓๒ สะท้อนให้เห็นว่า ในอดีตมนุษย์ไม่สามารถทำนายลมฟ้าอากาศได้ จะมีก็แต่เทพเจ้าเท่านั้นที่หยั่งรู้ ทว่าปัจจุบันการพยากรณ์อากาศมิได้เป็นเรื่องลี้ลับอีกต่อไป เพราะมนุษย์มีวิทยาการที่ก้าวหน้ามากมายจนรู้ดีและรู้จริงกว่าเทพเจ้าเสีย อีก ปัจจุบันทั่วโลกมีสถานีตรวจอากาศบนบกนับหมื่นสถานี ไม่รวมสถานีตรวจอากาศทางทะเล บนเรือพาณิชย์ที่สัญจรไปมาประมาณ ๕,๐๐๐ ลำ เครื่องบินพาณิชย์อีก ๒,๐๐๐ ลำ และบนยานในอวกาศ ที่ร่วมกันทำหน้าที่วัดลักษณะอากาศทั่วโลก ในสถานีเหล่านี้มีอุปกรณ์บันทึกอุณหภูมิปริมาณน้ำฝน ความเร็วและทิศทางลม ความกดอากาศและความชื้น (ปริมาณไอน้ำในอากาศ)
          ศูนย์อุตุนิยม วิทยาในประเทศต่าง ๆ จะรับข้อมูลสภาวะลมฟ้าอากาศจากดาวเทียมและสถานีตรวจอากาศทั่วโลก แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาพยากรณ์ลมฟ้าอากาศที่กำลังจะมาถึง คอมพิวเตอร์ชนิดพิเศษทำหน้าที่คำนวณค่าตัวเลขต่าง ๆ ที่สลับซับซ้อน แล้วสร้างแผนผังลักษณะอากาศที่จะมาถึง นักอุตุนิยมวิทยาใช้แผนผังนี้ทำนายลักษณะอากาศที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกสอง สามวันข้างหน้า แล้วรายงานแก่สื่อโทรทัศน์  หนังสือพิมพ์ชาวเรือ และอากาศยานทั้งหลาย โดยเฉพาะลมพายที่จะเกิดขึ้นซึ่งสามารถทราบล่วงหน้าได้ไม่น้อยกว่า ๓๖ ชั่วโมงก่อนที่พายุจะมาถึง จึงมีเวลาเตรียมตัวพอที่จะหลีกเลี่ยงอันตราย หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อลดความสูญเสียจากพายุที่จะเคลื่อนมา
          ในประเทศไทยมี สถานีตรวจอากาศ ๖o แห่ง และศูนย์อุตุนิยมวิทยาประจำภาคอีกห้าแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งจะทำการตรวจอากาศทุก ๗๖ ชั่วโมง หากเกิดพายุหรือกรณีพิเศษ ก็จะดำเนินการทุก ๆ สามหรือหนึ่งชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถทราบตำแหน่งของพายุจากดาวเทียมและติดตามการเคลื่อนตัวของ พายุโดยเรดาร์ตรวจอากาศ  ทำให้สามารถแจ้งให้ประชาชนทราบได้อย่างแม่นยำ เพื่อจะได้เตรียมตัวรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
          เกี่ยวกับเรื่องลมพายุซึ่งทำลายชีวิตและทรัพย์สินไปไม่น้อยในแต่ละปี  “ซองคำถาม"  ทราบมาว่า นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะพิชิตพายุเหล่านี้  โดยคิดวิธีที่จะตัดกำลังของพายุ เช่น พ่นสารเคมีเข้าใส่ แต่ก็ยังไม่ประสบผล และมีผู้เปรียบเทียบว่าเหมือนกับยิงเมล็ดถั่วเขียวใส่ช้าง

ข้อมูลจาก “หนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”